เพราะ ‘ตัวอักษร’ คือ ‘การสื่อสาร’ รูปแบบหนึ่ง หลายคนเริ่มจากการฝึกจับดินสอเพื่อวาดรูปขีดเขียน จนสามารถสื่อสารผ่านการผสมตัวอักษรออกมาเป็นคำ กระทั่งฝึกคัดลายมือเพื่อให้ได้ตัวอักษรที่บรรจงสวยงาม แต่ความงดงามของตัวอักษรกลับไม่ใช่แค่การคัดลายมือเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีศิลปะการเขียนตัวอักษรรูปแบบหนึ่งที่รู้จักกันแพร่หลาย ในชื่อ Calligraphy หรือ อักษรวิจิตร
เพื่อทำความรู้จักโลกของ Calligraphy ให้มากขึ้น วันนี้เราพาทุกคนไปพูดคุยกับ แป้ง สุวิมล ศิริฤดีภรณ์ สถาปนิกสาว และกุ๊ก กฤษฎา โหลทอง ศิลปินอิสระ, นักวาดรูป สองผู้ก่อตั้ง Mimin Studio สตูดิโอสอนเขียนอักษรวิจิตร ที่ทำงานให้กับแบรนด์ชั้นนำมากมาย ตั้งแต่ที่มา ความพิเศษ เรื่องราวของ Mimin Studio ไปจนถึงบทบาทล่าสุดกับการสวมบทโค้ชนำทีมเวิร์กชอป ‘Happy Journey with BEM 2023 : Happy Art Happy Card ออกแบบการ์ดปีใหม่ ด้วยอักษรวิจิตร’ ณ เมโทร อาร์ต MRT สถานีพหลโยธิน
Calligraphy หรือ อักษรวิจิตร คืออะไร
ครูแป้ง : ตามรากศัพท์ภาษากรีกคำว่า Calligraphy แปลว่า ตัวอักษรที่สวยงาม (Beautiful Writing) ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยที่ยังไม่มีปริ้นเตอร์ โดยจะมีโรงเรียนสอนเขียนอักษรในการที่จะผลิตเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้รูปแบบลักษณะใกล้เคียงกัน สมัยนั้นก็จะมีการประดิษฐ์คิดค้นแบบตัวอักษรต่างๆ ที่เรียกว่า ‘Script’ ของการเขียนมือ เพื่อที่จะเอามาใช้ในการผลิตเอกสารที่หน้าตาเหมือนๆ กัน แต่คนเขียนคนละคน เพราะฉะนั้นจึงต้องมีแบบแผนในการเขียน เป็นที่มาของการเขียนอักษรวิจิตร ซึ่งการเขียนอักษรวิจิตรในสมัยก่อนคือการเขียนเพื่อทำเอกสารที่เป็นทางการ หรือเอกสารทางศาสนา เรียกว่า Classic Calligraphy
Calligraphy ในปัจจุบันจะเรียกว่าเป็นศิลปะมากกว่า มากกว่าที่จะเป็นการเขียนตัวอักษรที่เป็นฟอร์แมตเดียวกัน ดังนั้นใน Mimin Studio ของเราจะเชี่ยวชาญด้าน Modern Calligraphy หรืองานอักษรวิจิตรที่เป็นแบบสมัยใหม่หน่อย ซึ่งมีแบบแผนในการเขียนที่อ้างอิงมาจากสมัยโบราณ แต่เราเขียนเพื่อจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกัน เราไม่ได้เขียนเพื่อทำเอกสารแล้ว เราเขียนเพื่อทำให้เกิดความสุข เขียนเพื่อใช้ในการ์ดเชิญ เขียนเพื่อนำไปต่อยอดทำงานออกแบบตัวอักษรต่างๆ หรือนำไปประกอบกับงานศิลปะอื่นๆ
ความพิเศษของ ‘อักษรวิจิตร’ ที่ไม่ใช่แค่การคัดลายมือ
ครูแป้ง : ปกติเวลาแป้งคุยกับนักเรียน เราต้องอธิบายให้ฟังก่อนตั้งแต่แรกเลยว่า Calligraphy ไม่ใช่แค่การคัดลายมือ คัดลายมือเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่จำเป็นจะต้องทำในการฝึกเขียนให้สวย เพราะการคัดลายมือเป็นการฝึกกล้ามเนื้อนิ้ว กล้ามเนื้อข้อมือ กล้ามเนื้อแขน ในการช่วยให้เราสามารถเขียนออกมาได้ แต่สิ่งสำคัญสำหรับงานอักษรวิจิตรคือการเขียนเส้นพื้นฐาน โครงสร้างของตัวอักษร ทุกคนที่จะฝึกเขียนต้องเข้าใจในเรื่องนี้ก่อน ว่าตัวอักษรแต่ละตัวมีโครงสร้างเส้นเป็นยังไง
Calligraphy มันเป็นศาสตร์ที่ค่อนข้างกว้างและลึกด้วย ในทางที่ว่ามันไม่จำเป็นต้องเป็นรูปแบบตัวอักษรเฉพาะที่แป้งสอนเท่านั้น แต่มันยังมีชื่อของรูปแบบตัวอักษร ชื่อ Script ของตัวอักษรหลายๆ แบบแตกต่างกันไปเป็นร้อยรูปแบบ และมีอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน หลักๆ อักษรวิจิตรคือการสร้างตัวอักษรด้วยการใช้มือเขียน จาก Stroke เป็นการลากเส้นเส้นเดียว ทำให้เกิดเส้น แล้วค่อยๆ เอาเส้นมาต่อกันให้กลายเป็นตัวอักษร มันเป็นศิลปะอย่างนึงที่หลายๆ คนอาจจะเข้าใจผิดว่ามันเป็นแค่การคัดลายมือ
จุดเริ่มต้นของ ‘Mimin Studio’ สตูดิโอสอนเขียนอักษรวิจิตร
ครูกุ๊ก : จริงๆ แล้วเราพยายามเขียนพวกตัวอักษรภาษาอังกฤษสวยๆ แบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว แต่ไม่ได้รู้หลักการที่ถูกต้องจริงๆ ว่าเขียนยังไง ใช้อุปกรณ์แบบไหน (ครูแป้ง : แล้วเราก็ลายมือไม่สวย) อยากลายมือสวยด้วย จนเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เราอยากเขียนเป็นจริงๆ เลยเริ่มศึกษาแบบจริงจัง พอเราได้เข้าใจหลักการ โครงสร้างของการเขียนที่ถูกต้องกับการเลือกใช้อุปกรณ์ ทุกอย่างมันมีผลหมดเลย ทั้งกระดาษ หมึก ปากกา หัวปากกา ถ้าเราเลือกใช้ไม่ถูกมันก็เขียนไม่ได้ พวกองศาการจับ ท่านั่ง จนพอเรามีทุกอย่างแล้ว เลยคิดว่าถ้าได้ถ่ายทอดให้คนอื่นเหมือนที่เราเข้าใจก็จะดีต่อคนอื่นด้วย เหมือนเป็นการฝึกเราไปในตัวด้วย เลยบอกแป้ง เพราะแป้งเขาเป็นสถาปนิก เขาก็จะชอบตั้งคำถาม เลยร่วมกันครีเอตคลาสเวิร์กชอปขึ้นมา
ครูแป้ง : สำหรับจุดเริ่มต้นของ Mimin Studio คือตอนนั้นมันไม่มีใครทำ แล้วเราคิดว่าจริงๆ ต้องมีคนที่อยากได้ อยากเรียน อยากรู้ ตอนนั้นเราตั้งขึ้นมาเพื่อจะสอนอย่างเดียว เพราะเราคิดว่ายังมีหลายคนไม่รู้ และเราอยากถ่ายทอดสิ่งที่เราพยายามฝึกมาเป็นปี รวบรวมและถ่ายทอดให้เขาได้ภายใน 1 วันที่เขามาอยู่กับเรา หลังจากนั้นเขาจะได้กลับไปฝึก เพื่อที่จะพัฒนาได้เร็วขึ้น
เราเน้นเรื่องการสอนเพื่อสร้างความสุข สร้างสมาธิ สร้างงานอดิเรกที่เขารัก การที่เราจะทำงานอดิเรกอย่างนึง ถ้าเราสักแต่ว่าทำแล้วไม่มีคนช่วยแนะนำ บางทีเราก็รู้สึกว่าทำมาได้แค่นี้และไม่รู้จะไปไหนต่อ แต่หลายคนที่เขาชอบเขียน แล้วเขามาเรียนกับเรา พอเรียนจบแล้วเขากลับไปเขียนต่อ เขามีความสุขกับการที่เขาจะเขียนและทำได้อีกเรื่อยๆ
เล่าถึงคลาสเรียนของ ‘Mimin Studio’
ครูแป้ง : หลังจากที่เราเริ่มสอนโดยที่ตอนแรกเน้นเรื่องงานอดิเรก กับการเขียนให้เข้าใจ พอเริ่มสอนไปเรื่อยๆ ก็เริ่มมีคนหลากหลายขึ้น อย่างเช่น เราจะเจอนักเรียนที่เป็นโรคซึมเศร้าเข้ามา เพราะเขาพยายามจะหาอะไรบางอย่างทำเพื่อที่จะช่วยเขา ซึ่งก็มีคนที่กลับมาแล้วบอกว่าเขาดีใจมากที่ได้มาเรียนกับเราและเขาดีขึ้น อาชีพต่างๆ ที่เข้ามาเรียนก็หลากหลาย ตั้งแต่พนักงานบริษัทธรรมดา หลายคนก็มาเรียนเพื่อที่อยากจะผ่อนคลายหลังจากทำงานหน้าคอม โปรแกรมเมอร์ หมอ ไปจนถึงเจ้าของธุรกิจใหญ่โตก็ยังมาเรียน
ครูกุ๊ก : เหตุการณ์ที่ประทับใจที่สุดน่าจะเป็นนักเรียนซึมเศร้า เราไม่รู้หรอกว่าเขาระดับไหน แต่เวลาลงเรียนเราจะให้เขาแนะนำตัวว่าทำไมถึงอยากเรียน ซึ่งเขาบอกเลยว่าหมอแนะนำให้หากิจกรรมทำ พอเขามาเรียนกับเราประมาณ 3 ครั้ง หายไปปีนึง เขาส่งข้อความกลับมาหาเราว่า ขอบคุณครูมากเลยที่ทำให้รู้สึกดีขึ้น ตอนนี้หายจากอาการพวกนั้นแล้ว แล้วก็ส่งรูปตัวเองมาให้ดู ส่งผลงานที่ฝึกเขียนมา จนปัจจุบันแต่งงานไปแล้ว (ยิ้ม)
‘อักษรวิจิตร’ และการร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำ
ครูแป้ง : ตอนแรกที่เราเปิดสตูดิโอเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว (พ.ศ.2559) เราเปิดสอนอย่างเดียว พอเปิดสอนก็มีเว็บไซต์ มีอะไรที่จะทำให้คนรู้จักเรา รู้จักผลงานเรามากขึ้น โดยแรกๆ เราก็ทำการ์ด ทำอะไรของเราเอง พอเริ่มมีผลงานออกไปสู่สาธารณชน ก็จะมีแบรนด์ที่เขาต้องการในงานพวกนี้ ซึ่งเมืองนอกเขามีมานานแล้ว แต่เมืองไทยยังไม่มีคนที่ทำงานด้านนี้เป็นอาชีพจริงจัง เขาก็ติดต่อมาเพื่อที่จะให้เราเขียนการ์ดด้วยมือเป็นการ์ดเชิญต่างๆ
แบรนด์ที่เราเคยทำงานด้วยก็อย่างเช่น CHANEL, YSL, Longchamp, Patek Philippe จะเป็นแบรนด์ลักชัวรีซะส่วนใหญ่ ที่เขาต้องการเชิญแขกให้ประทับใจ นอกจากการเขียนเชิญแขก ก็จะมีการทำงาน Art work เป็นชิ้นต่อชิ้น เช่น วันนี้อยากได้การ์ดวันเกิดให้คนนึงที่เราเคารพมาก เขาก็มาให้เราเขียนเพื่อทำเป็น Art work ให้เขารับไปและเอาไปประดับบ้านได้ นอกจากนี้เรายังทำเป็นเวิร์กชอปให้แบรนด์ต่างๆ เช่น ไปเขียนการ์ดหน้างานที่ร้านเขา หรือเขียนบนกล่อง สลักชื่อบนขวดน้ำหอม จัดเวิร์กชอปให้ลูกค้าวีไอพี จัดเทรนนิ่งให้กับพนักงาน จัดอีเวนต์ฝึกเขียน Calligraphy ให้กับทางห้าง ก็จะมีหลากหลาย
ครูกุ๊ก : ได้สอนคนมาเยอะมาก ปัจจุบันเราสอนมามากกว่า 4,000 คน ตั้งแต่คนธรรมดา ไปจนถึงซีอีโอพันล้าน นักการเมือง
ครูแป้ง : งานเรามันเหมาะกับทุกเพศทุกวัย อยู่ที่ว่าเขาเอาไปทำอะไรต่อด้วย อย่างที่เราเคยสอนมีตั้งแต่เด็ก 6-7 ขวบ ไปจนถึงอายุ 74 ปี ครั้งนั้นมาเป็นครอบครัว คุณหลาน คุณแม่ และคุณยาย มาเรียนพร้อมกัน เป็นกิจกรรมครอบครัว คุณแม่ก็บอกว่าดีมีกิจกรรมทำกับลูก พาลูกออกห่างจากหน้าจอมือถือ คนที่มาเขาก็จะมีภาพหรือเป้าหมายอยู่ในใจว่าเขาอยากได้อะไร เช่น เจ้าสาว ที่มาเรียนเพราะตั้งใจอยากนำไปเขียนการ์ดเชิญด้วยตัวเอง ซึ่งคนที่มีเป้าหมายแบบนี้จะตั้งใจมาเรียน ขณะที่บางคนมาเรียนเพราะอยากมีสมาธิ อันนี้ก็ช่วยได้
คำแนะนำเพื่อเป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นเส้นทางนี้
ครูกุ๊ก : Calligraphy เป็นทักษะหนึ่งที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ถ้าฝึกมากพอ ยิ่งถ้าเข้าใจหลักการจะเริ่มต้นได้ดีและต่อยอดได้ดี ชอบมีหลายคนถามว่าลายมือไม่สวยเรียนได้ไหม เหมือนที่เราบอกตั้งแต่เริ่มว่าเราเริ่มฝึกเพราะอยากลายมือสวยใช่ไหม จนทุกวันนี้ลายมือปกติของเราก็ยัง.. (ครูแป้ง : ไก่เขี่ยอยู่เลย) มันจะแยกกันระหว่างลายมือกับ Calligraphy
“Calligraphy เป็นศิลปะการเขียนตัวอักษรแบบหนึ่ง เป็นการวาดรูปให้เป็นตัวอักษร อยากให้ทุกคนเข้าใจใหม่”
กิจกรรมเวิร์กชอป ‘Happy Art Happy Card ออกแบบการ์ดปีใหม่ ด้วยอักษรวิจิตร’ กับ Mimin Studio
ครูแป้ง : ทุกอย่างที่เราสอนใน 3 ชั่วโมง ในคอร์ส 1 วัน ตอนที่เราฝึกเอง เราใช้เวลาประมาณ 3 เดือนกว่าจะเข้าใจ หลังจากนั้นอีก 6 เดือน ถึงเกือบปี กว่าที่เราจะเขียนให้สวยหรือพลิ้วได้ แต่การที่มาเรียนกับเราใน 1 วัน หรือคอร์สการเรียน 3 ชั่วโมง ก็สามารถย่นเวลาไปได้ 3 เดือนแล้ว หลักๆ ที่จะได้คือ เข้าใจเรื่องโครงสร้างตัวอักษร หลักการเขียนอักษรเบื้องต้น จะได้ลองฝึกเขียนชื่อของตัวเอง หรือคำที่ใช้บ่อย เพื่อเป็นจุดหมายแรกก่อนที่จะนำไปต่อยอดเพื่อเขียนคำอื่นๆ ที่หลากหลายขึ้น
เชิญชวนให้คนมาร่วมในเวิร์กชอป เดือนธันวาคม
ครูแป้ง : อยากให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่าการที่มาฝึกเขียนอักษร Calligraphy เป็นการทำงานศิลปะอย่างหนึ่ง ใครที่ชอบงานศิลปะแล้วอยากมีตัวอักษรสวยๆ ไปประกอบงานศิลปะ หรือใครที่อยากเป็นศิลปินทางด้านตัวอักษร ใครที่เป็นนักออกแบบด้านโลโก้ สามารถมาร่วมงานได้ หรือคนที่กำลังศึกษาอยู่แล้วสนใจศาสตร์ด้านนี้ก็มาร่วมเวิร์กชอปกับ Happy Journey with BEM ได้นะคะ ครูใจดีค่ะ
ครูกุ๊ก : มาเจอกันครับ รับรองสนุกแน่ 3 ชั่วโมง ได้ความรู้แน่นๆ
ผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ‘Happy Journey with BEM 2023 : Happy Art Happy Card ออกแบบการ์ดปีใหม่ ด้วยอักษรวิจิตร’ ณ เมโทร อาร์ต MRT สถานีพหลโยธิน รอบบุคคลทั่วไป วันที่ 21 ธันวาคม 2566 สามารถติดตามรายละเอียดและร่วมสนุก เพื่อลุ้นเป็นผู้โชคดีได้ที่ เฟซบุ๊ก: BEM Bangkok Expressway and Metro หรือคลิก https://www.facebook.com/BEM.MRT